21 มกราคม 2560

OS/SF | Loneliness (MONMIN)





 #บังทันวีคลี่ 30 ; movie qoute


Rapmoster x Jimin
writer : Largomorpha





 




            ร่างสูงใส่แว่นกันแดดราคาแพงเดินตามทางเท้าริมถนน มีเพียงแสงไฟจากร้านรวงต่างๆยามค่ำคืนช่วยนำทาง ถามว่าทำไมดึกขนาดนี้ยังต้องใส่แว่นทึบอีกหรือ ถ้าคุณลองสังเกตดีๆจะพบว่าภายใต้แว่นตาดำนั้นมีคราบน้ำตาเปรอะอยู่รอบดวงตาคมคู่งาม
           

เป็นเวลาเกือบ 7 ปีที่คิมนัมจุนไม่ได้กลับมาเยือนบ้านเกิด เขามั่นใจมาโดยตลอดว่าทำใจได้แล้ว แต่เมื่อกลับมาพบกับสถานที่เดิมๆ บรรยากาศเดิมๆ ก็ทำให้อดคิดถึงคนตัวเล็กไม่ได้ แผลเก่าที่ดูเหมือนจะหายดีความจริงนั้นกลับตรงกันข้าม เรื่องราวต่างๆในความทรงจำไหลทะลักเข้ามาราวกับว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
           

ย้อนกลับไปเมื่อ 7 ปีก่อน ในวันที่เขาได้ทุนไปศึกษาดูงานที่ต่างประเทศ ปาร์คจีมิน คนรักผู้ครอบครองหัวใจทั้งหมดทุกห้องของเขายังดีใจอย่างกับว่าเป็นตัวเองที่ได้ไป เพราะการได้ทุนถือเป็นใบเบิกทางในอนาคตที่ดี ทั้งคู่วาดภาพในอนาคตหลังจากที่นัมจุนกลับมา ว่าจะแต่งงานและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข นัมจุนคิดเสมอว่าจีมินต้องเข้าใจและรอตนเองได้ แต่นัมจุนคิดผิด เวลาผ่านไปได้ไม่ถึงครึ่งปีหลังจากที่เขาย้ายไปดูงานคนละซีกโลกกับประเทศบ้านเกิด ทั้งระยะทางและระยะเวลาที่ต่างกันพัดพาให้ทั้งคู่เหินห่าง จากที่เคยคุยกันทุกวัน เปลี่ยนเป็นอาทิตย์ละวัน และนานขึ้นเรื่อยๆ กว่านัมจุนจะรู้ตัวอีกที จีมินก็ได้หายไปจากชีวิตของเขาอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
           

นัมจุนคบกับจีมินมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย จนเข้ามหาลัยทั้งคู่ก็ยังหวานกันอยู่และไม่มีทีท่าว่าจะเลิกกันเลย เขาไม่เคยจินตนาการถึงวันที่ไม่มีจีมิน นัมจุนทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลืมคนรัก ไม่ว่าจะโหมงานหนักขึ้นจนไม่สบาย หรือหาใครบางคนเข้ามาแทนที่ แต่ก็ไม่มีใครสามารถทำให้ร่างสูงคลายความเหงาที่เข้ามากัดกินหัวใจเขา จากนัมจุนที่เคยยิ้มง่าย ก็กลายเป็นคนนิ่งขึ้นตามกาลเวลา ท้ายที่สุดในเมื่อไม่มีคนรอให้เขากลับมา นัมจุนจึงตัดสินใจทำงานต่อที่นู่น
           

เวลาล่วงเลยมาหลายปี ไม่ว่าอย่างไรคนเราก็ต้องอยากกลับบ้าน นัมจุนคิดว่าแผลเก่าหายดีแล้วจึงเดินทางกลับประเทศเกาหลี แต่เมื่อมาถึงสนามบินจู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมา นัมจุนหลอกตัวเองว่าเป็นเพราะคิดถึงบ้าน แต่ความจริงแล้วเขาคิดถึงจีมินต่างหาก


ออกมานอกสบามบิน มองไปรอบๆมีแต่บรรยากาศของความคิดถึง น้อยคนนักที่ไม่มีคนมารับเช่นเขา รอบๆจึงมีแต่เสียงเจี้ยวจ้าวไถ่ถามความเป็นอยู่ในเมืองนอก บางคนโอบกอดกัน บางคนจูบกัน บางคนยิ้มให้กัน ก่อนนัมจุนจะออกเดินทางเองก็เคยคิดไว้ว่าวันที่เค้ากลับมาจีมินจะต้องมารอรับเขา
           

ในเมื่อไม่มีคนมารับ อีกทั้งพ่อกับแม่อยู่ต่างจังหวัด เขาจึงได้แต่หอบกระเป๋าใบใหญ่ดูทุรังทุเรไป โบกแท็กซี่กลับคอนโดที่ถูกทิ้งร้างไว้ถึง 7 ปี เมื่อลงจากแท็กซี่ นัมจุนก็รู้สึกว่าเหมือนมีภาพความทรงจำมาทับซ้อนกับความเป็นจริง ภาพที่จีมินเคยเดินเข้าที่พักพร้อมกับนัมจุนในทุกๆวัน ภาพที่นัมจุนเคยอุ้มจีมินกลับบ้านตอนจีมินเมาในวันจบการศึกษา นัมจุนเดินเข้าไปกดลิฟท์เพื่อขึ้นห้องพัก ถึงแม้ว่าจะมีอะไรหลายๆอย่างที่เปลี่ยนไปจากตำแหน่งเดิมหรือแม้จะถูกทาสีใหม่ แต่ก็ไม่ทำให้นัมจุนเห็นภาพซ้อนของจีมินน้อยลง เดินไปถึงหน้าห้อง ค้นดูตำแหน่งเก็บกุญแจที่มีแต่เขากับจีมินรู้ กุญแจเขรอะฝุ่นทำให้นัมจุนรู้สึกจุกในอก นานเท่าไรแล้วที่ห้องนี้ไม่มีใครอีกคนก้าวเข้ามา เปิดประตูห้องเข้าไปก็ไม่ต่างจากที่นัมจุนคิดเอาไว้ ของส่วนใหญ่โลงหายไป พื้นที่โลงๆที่เหลือมีแต่คราบฝุ่นมาเกาะหนาเตอะ ห้องโล่งๆนี้ทำให้นัมจุนนึกถึงวันแรกที่มาดูห้องกับจีมิน ภาพที่จีมินดูตื่นเต้นกับห้องใหม่ คำพูดที่เขาชวนจีมินมาอยู่ด้วยกันหลังจากซื้อที่พัก เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่ช่วยกันเลือกมาตกแต่งห้อง ทุกการกระทำ ทุกประโยคสนทนายังก้องอยู่ในหัวของนัมจุน
           

หลังจากที่นัมจุนเห็นสภาพห้องของตัวเองแล้วคิดว่าคืนนี้ยังไงก็ทำความสะอาดไม่ทัน เข้าจึงต่อสายไปหาจองโฮซอก เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของนัมจุนที่ยังติดต่อกันอยู่บ่อยๆแม้ว่าจะห่างไกลกัน
           
โหล ขอไปนอนบ้านมึงคืนนึงดิ
อ่าว มึงถึงแล้วหรอ ทำไมไม่บอกให้กูไปรับ
            ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันกลับเองได้ แต่สภาพห้องนี่สิ ต้องทำความสะอาดยาวเลย
            เออๆ งั้นเดี๋ยวกูไปรับมึงหน้าคอนโด รอแป๊บ
           
หลังวางสายจากเพื่อนสนิท นัมจุนก็เริ่มลงมือทำความสะอาดห้องฆ่าเวลา ของที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อยล้วนเป็นของเขา และกว่าครึ่งเป็นของที่ซื้อคู่กับจีมิน ความรู้สึกแน่นที่อกเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เปิดประตูห้องนอนเข้าไป นัมจุนจามติดๆกับหลายที ตุ๊กตาที่นัมจุนเคยให้จีมินหลายตัวถูกวางรวมไว้กับตุ๊กตาไรอันตัวโปรดของเขาบนเตียงเก่าๆ เตียงที่เคยมีจีมินนอนข้างนัมจุน
รู้ตัวอีกที โฮซอกก็มาเคาะประตูเรียกหน้าห้องแล้ว ทั้งคู่โผเข้ากอดกัน ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนก็ไม่มีวันเปลี่ยน
           

นายยังขาดของใช้อะไรอีกไหม กินไรยัง แวะห้างมั้ยโฮซอกพูดขึ้นทำลายความเงียบที่คนข้างตัวสร้าง หลังจากขึ้นรถมานัมจุนก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย ทั้งยังเอาแต่นั่งนิ่ง
            ไม่รอเพื่อนรักตอบ โฮซอกเลี้ยวรถเข้าไปจอดในลานจอดรถ นัมจุนเหม่อลอยมองเข้าไปในตัวตึก ห้างนี้เปิด 24 ชม. แถมยังอยู่ใกล้คอนโด เป็นไปไม่ได้เลยที่เขากับจีมินจะไม่เคยมา


ภาพซ้อนปรากฏขึ้นอีกครั้ง จีมินเคยจับมือเขาและลากไปส่วนนู่นส่วนนี่ พาเขาไปเลือกซื้อขนมและของกินที่ตัวเองชอบ ซื้อวัตถุดิบไปทำอาหารให้เขากิน หรือแม้แต่ตอนใกล้สอบที่ออกมาหาอาหารสำเร็จรูปและกาแฟโต้รุ่งด้วยกัน นัมจุนเดินผ่านโซนขนมเข้าไปส่วนลึกของห้าง ตู้ขายเบียร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าเมื่อก่อนมากโชว์หลาอยู่เบื้องหน้า นัมจุนเอื้อมมือไปหยิบเบียร์ยี่ห้อโปรดแต่แล้วก็ชะงักไป เพราะครั้งหนึ่งเขาเองก็เคยทำแบบนี้ แต่ตอนนั้นจีมินห้ามไว้ นัมจุนสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านไป ในเมื่อตอนนี้อีกฝ่ายไม่อยู่แล้ว เขาก็มีสิทธิ์ที่จะซื้อเบียร์ขวดนี้


นายดูเปลี่ยนไปเยอะเลยนะนัมจุน สายตาของนายมีทั้งความเหงาและความเศร้า
ไม่เคยมีวันไหนที่ฉันไม่มีความรู้สึกพวกนี้
เรื่องมันผ่านมานาน เลิกคิดมากได้แล้ว... ฝันดีเพื่อน
ประโยคสนทนาสั้นๆก่อนแยกย้ายกันไปนอนของเพื่อนรักทำเอานัมจุนได้แต่เถียงในใจ
คิดว่าฉันอยากรู้สึกแบบนี้หรือ คิดว่าฉันไม่อยากลืมหรือ
           

วันต่อมาโฮซอกออกไปทำงานแล้ว เหลือแค่เขากับมินยุนกิแฟนตัวเล็กของเพื่อนรัก เมื่อคืนคงเพราะเขามาถึงตอนดึกๆจึงไม่เจอยุนกิ นัมจุนเหลือบมองนาฬิกาพบว่าเป็นเวลาบ่ายๆ เขาหลับไปนานมากคงเพราะเหนื่อยและเจ็ทแล็กด้วย
           
นั่งสินัมจุน โฮซอกทำเผื่อไว้ให้นายตั้งแต่เมื่อเช้านู่นแหนะ
            นัมจุนรู้จักยุนกิมาก่อนแล้วเพราะเคยอยู่ชมรมดนตรีเหมือนกัน ฟังจากคำบอกเล่าของเพื่อน คนตรงหน้ากลายเป็นนักทำเพลงชื่อดังไปเสียแล้ว
           
เออนี่นัมจุน นายพอมีเวลาว่างบ้างมั้ยล่ะ มาช่วยฉันทำเพลงแบบเมื่อก่อนสิ
            ได้เลยพี่ ตอนนี้ผมยังไม่มีงานทำพอดี
            จริงหรอ ดีมากๆ จะได้ครบ...”
            นัมจุนชะงักมือที่กำลังตักข้าวเข้าปาก
            เอ่อ... ฉันขอโทษ
            ยุนกิไม่ทันคิดว่าคำพูดเมื่อกี้จะไปสะกิดแผลเก่านัมจุน เพราะสมัยเรียน ทีมโปรดิวซ์เพลงมีเขา โฮซอก และนัมจุน ส่วนทีมร้องมีจีมินเป็นหนึ่งในนั้น
            ไม่เป็นไรครับพี่ ผมโอเค ชินแล้ว
            นัมจุนส่งยิ้มมาให้ยุนกิซึ่งดูอย่างไรก็เป็นยิ้มเศร้าเจื่อนๆ ผมชินกับความเหงาแล้ว
           

บ้านของโฮซอกอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยที่เขาเคยเรียนมันทำให้นัมจุนคิดถึงจีมินได้ง่ายขึ้น ป้ายรถเมย์ที่เคยรอขึ้นรถกับจีมิน เขาเคยใส่หูฟังคนละข้างกับจีมินเพื่อรอรถ จีมินบอกว่ามันโรแมนติกมาก ร้านเค้กที่จีมินชอบลากนัมจุนไปกินด้วยบ่อยๆ แต่เพราะนัมจุนไม่ชอบกินของหวานเลยโดนจีมินบ่นบ่อยๆ เก้าอี้ข้างทางที่เป็นสถานที่นัดกันหลังเลิกเรียนของนัมจุนกับจีมิน ใครเลิกก่อนก็จะมารอที่ม้านั่งตัวนี้ ร้านไอศกรีมที่เคยมาฉลองกับจีมินในทุกโอกาส ทั้งยังเป็นที่ที่นัมจุนสารภาพรักกับจีมินอีกด้วย ทุกๆสถานที่ในอดีตมีแต่จีมินกับนัมจุน
           
           

หลังจากที่คิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่กลับมา ขายาวๆก็พาเจ้าตัวมาหยุดหน้าผับแห่งหนึ่งที่เคยมาฉลองกับเพื่อนๆ นัมจุนเก็บแว่นกันแดดและเปิดประตูเข้าไป เสียงเพลงดังกระฮึ่มทำเอาหูชาไปสักพัก เมื่อปรับตัวได้นัมจุนก็เริ่มสนุกไปกับเพลง นัมจุนสั่งเครื่องดื่มสีสวยหลายแก้ว หวังว่าจะดื่มเพื่อลืมคนตัวเล็ก เวลาผ่านไปพักใหญ่ๆจนนัมจุนเริ่มเมา เขาเหมือนเห็นจีมินท่ามกลางฝูงคนที่กำลังเต้นกันอย่างสนุกสนาน นัมจุนไม่รู้ว่านี่เป็นภาพหลอนอีกหรือไม่ ทั้งวันนี้เขาเห็นภาพจีมินเป็นร้อยๆครั้งแล้ว
           
จีมินที่เขาเห็นเดินตรงมาที่เขา นัมจุนรู้สึกว่าภาพที่เขาเห็นตอนนี้ดูสมจริงกว่าที่เคย อาจเป็นเพราะแอลกอฮอล์ที่อยู่ในเลือดตอนนี้ ยังไม่ให้สมองได้ประมวลผลภาพตรงหน้า ปากกลับไวกว่า นัมจุนเอ่ยเรียกชื่อคนตัวเล็กออกมา
            จีมิน...
            ไง
            ไม่มีภาพไหนที่สามารถส่งเสียงตอบกลับมาได้หรอกนะ...







 TALK : ตอนนี้ขอขอบคุณพี่จัสวัน @justonedegree ค่ะ ช่วยให้คำแนะนำหลายๆอย่างเลย เพราะตามจริงแล้วไม่ถนัดเขียนแนวนี้มาก ขอบคุณที่ตามอ่านกันมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น