#บังทันวีคลี่ 30 ; movie qoute
Rapmoster x Jimin
writer : Largomorpha

ร่างสูงใส่แว่นกันแดดราคาแพงเดินตามทางเท้าริมถนน
มีเพียงแสงไฟจากร้านรวงต่างๆยามค่ำคืนช่วยนำทาง ถามว่าทำไมดึกขนาดนี้ยังต้องใส่แว่นทึบอีกหรือ
ถ้าคุณลองสังเกตดีๆจะพบว่าภายใต้แว่นตาดำนั้นมีคราบน้ำตาเปรอะอยู่รอบดวงตาคมคู่งาม
เป็นเวลาเกือบ
7 ปีที่คิมนัมจุนไม่ได้กลับมาเยือนบ้านเกิด
เขามั่นใจมาโดยตลอดว่าทำใจได้แล้ว แต่เมื่อกลับมาพบกับสถานที่เดิมๆ บรรยากาศเดิมๆ
ก็ทำให้อดคิดถึงคนตัวเล็กไม่ได้
แผลเก่าที่ดูเหมือนจะหายดีความจริงนั้นกลับตรงกันข้าม
เรื่องราวต่างๆในความทรงจำไหลทะลักเข้ามาราวกับว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
ย้อนกลับไปเมื่อ
7 ปีก่อน ในวันที่เขาได้ทุนไปศึกษาดูงานที่ต่างประเทศ ปาร์คจีมิน คนรักผู้ครอบครองหัวใจทั้งหมดทุกห้องของเขายังดีใจอย่างกับว่าเป็นตัวเองที่ได้ไป
เพราะการได้ทุนถือเป็นใบเบิกทางในอนาคตที่ดี
ทั้งคู่วาดภาพในอนาคตหลังจากที่นัมจุนกลับมา
ว่าจะแต่งงานและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข นัมจุนคิดเสมอว่าจีมินต้องเข้าใจและรอตนเองได้
แต่นัมจุนคิดผิด เวลาผ่านไปได้ไม่ถึงครึ่งปีหลังจากที่เขาย้ายไปดูงานคนละซีกโลกกับประเทศบ้านเกิด
ทั้งระยะทางและระยะเวลาที่ต่างกันพัดพาให้ทั้งคู่เหินห่าง จากที่เคยคุยกันทุกวัน
เปลี่ยนเป็นอาทิตย์ละวัน และนานขึ้นเรื่อยๆ กว่านัมจุนจะรู้ตัวอีกที
จีมินก็ได้หายไปจากชีวิตของเขาอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
นัมจุนคบกับจีมินมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย
จนเข้ามหาลัยทั้งคู่ก็ยังหวานกันอยู่และไม่มีทีท่าว่าจะเลิกกันเลย
เขาไม่เคยจินตนาการถึงวันที่ไม่มีจีมิน นัมจุนทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลืมคนรัก
ไม่ว่าจะโหมงานหนักขึ้นจนไม่สบาย หรือหาใครบางคนเข้ามาแทนที่
แต่ก็ไม่มีใครสามารถทำให้ร่างสูงคลายความเหงาที่เข้ามากัดกินหัวใจเขา จากนัมจุนที่เคยยิ้มง่าย
ก็กลายเป็นคนนิ่งขึ้นตามกาลเวลา ท้ายที่สุดในเมื่อไม่มีคนรอให้เขากลับมา
นัมจุนจึงตัดสินใจทำงานต่อที่นู่น
เวลาล่วงเลยมาหลายปี
ไม่ว่าอย่างไรคนเราก็ต้องอยากกลับบ้าน
นัมจุนคิดว่าแผลเก่าหายดีแล้วจึงเดินทางกลับประเทศเกาหลี
แต่เมื่อมาถึงสนามบินจู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมา นัมจุนหลอกตัวเองว่าเป็นเพราะคิดถึงบ้าน
แต่ความจริงแล้วเขาคิดถึงจีมินต่างหาก
ออกมานอกสบามบิน
มองไปรอบๆมีแต่บรรยากาศของความคิดถึง น้อยคนนักที่ไม่มีคนมารับเช่นเขา
รอบๆจึงมีแต่เสียงเจี้ยวจ้าวไถ่ถามความเป็นอยู่ในเมืองนอก บางคนโอบกอดกัน บางคนจูบกัน
บางคนยิ้มให้กัน
ก่อนนัมจุนจะออกเดินทางเองก็เคยคิดไว้ว่าวันที่เค้ากลับมาจีมินจะต้องมารอรับเขา
ในเมื่อไม่มีคนมารับ
อีกทั้งพ่อกับแม่อยู่ต่างจังหวัด เขาจึงได้แต่หอบกระเป๋าใบใหญ่ดูทุรังทุเรไป โบกแท็กซี่กลับคอนโดที่ถูกทิ้งร้างไว้ถึง
7 ปี เมื่อลงจากแท็กซี่ นัมจุนก็รู้สึกว่าเหมือนมีภาพความทรงจำมาทับซ้อนกับความเป็นจริง
ภาพที่จีมินเคยเดินเข้าที่พักพร้อมกับนัมจุนในทุกๆวัน ภาพที่นัมจุนเคยอุ้มจีมินกลับบ้านตอนจีมินเมาในวันจบการศึกษา
นัมจุนเดินเข้าไปกดลิฟท์เพื่อขึ้นห้องพัก ถึงแม้ว่าจะมีอะไรหลายๆอย่างที่เปลี่ยนไปจากตำแหน่งเดิมหรือแม้จะถูกทาสีใหม่
แต่ก็ไม่ทำให้นัมจุนเห็นภาพซ้อนของจีมินน้อยลง เดินไปถึงหน้าห้อง
ค้นดูตำแหน่งเก็บกุญแจที่มีแต่เขากับจีมินรู้
กุญแจเขรอะฝุ่นทำให้นัมจุนรู้สึกจุกในอก นานเท่าไรแล้วที่ห้องนี้ไม่มีใครอีกคนก้าวเข้ามา
เปิดประตูห้องเข้าไปก็ไม่ต่างจากที่นัมจุนคิดเอาไว้ ของส่วนใหญ่โลงหายไป
พื้นที่โลงๆที่เหลือมีแต่คราบฝุ่นมาเกาะหนาเตอะ ห้องโล่งๆนี้ทำให้นัมจุนนึกถึงวันแรกที่มาดูห้องกับจีมิน
ภาพที่จีมินดูตื่นเต้นกับห้องใหม่ คำพูดที่เขาชวนจีมินมาอยู่ด้วยกันหลังจากซื้อที่พัก
เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่ช่วยกันเลือกมาตกแต่งห้อง ทุกการกระทำ
ทุกประโยคสนทนายังก้องอยู่ในหัวของนัมจุน
หลังจากที่นัมจุนเห็นสภาพห้องของตัวเองแล้วคิดว่าคืนนี้ยังไงก็ทำความสะอาดไม่ทัน
เข้าจึงต่อสายไปหาจองโฮซอก เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของนัมจุนที่ยังติดต่อกันอยู่บ่อยๆแม้ว่าจะห่างไกลกัน
“โหล
ขอไปนอนบ้านมึงคืนนึงดิ”
“อ่าว
มึงถึงแล้วหรอ ทำไมไม่บอกให้กูไปรับ”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันกลับเองได้ แต่สภาพห้องนี่สิ
ต้องทำความสะอาดยาวเลย”
“เออๆ งั้นเดี๋ยวกูไปรับมึงหน้าคอนโด รอแป๊บ”
หลังวางสายจากเพื่อนสนิท
นัมจุนก็เริ่มลงมือทำความสะอาดห้องฆ่าเวลา
ของที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อยล้วนเป็นของเขา
และกว่าครึ่งเป็นของที่ซื้อคู่กับจีมิน ความรู้สึกแน่นที่อกเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เปิดประตูห้องนอนเข้าไป
นัมจุนจามติดๆกับหลายที ตุ๊กตาที่นัมจุนเคยให้จีมินหลายตัวถูกวางรวมไว้กับตุ๊กตาไรอันตัวโปรดของเขาบนเตียงเก่าๆ
เตียงที่เคยมีจีมินนอนข้างนัมจุน
รู้ตัวอีกที
โฮซอกก็มาเคาะประตูเรียกหน้าห้องแล้ว ทั้งคู่โผเข้ากอดกัน
ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนก็ไม่มีวันเปลี่ยน
“นายยังขาดของใช้อะไรอีกไหม
กินไรยัง แวะห้างมั้ย” โฮซอกพูดขึ้นทำลายความเงียบที่คนข้างตัวสร้าง
หลังจากขึ้นรถมานัมจุนก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย ทั้งยังเอาแต่นั่งนิ่ง
ไม่รอเพื่อนรักตอบ
โฮซอกเลี้ยวรถเข้าไปจอดในลานจอดรถ นัมจุนเหม่อลอยมองเข้าไปในตัวตึก ห้างนี้เปิด 24
ชม. แถมยังอยู่ใกล้คอนโด เป็นไปไม่ได้เลยที่เขากับจีมินจะไม่เคยมา
ภาพซ้อนปรากฏขึ้นอีกครั้ง
จีมินเคยจับมือเขาและลากไปส่วนนู่นส่วนนี่ พาเขาไปเลือกซื้อขนมและของกินที่ตัวเองชอบ
ซื้อวัตถุดิบไปทำอาหารให้เขากิน
หรือแม้แต่ตอนใกล้สอบที่ออกมาหาอาหารสำเร็จรูปและกาแฟโต้รุ่งด้วยกัน นัมจุนเดินผ่านโซนขนมเข้าไปส่วนลึกของห้าง
ตู้ขายเบียร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าเมื่อก่อนมากโชว์หลาอยู่เบื้องหน้า นัมจุนเอื้อมมือไปหยิบเบียร์ยี่ห้อโปรดแต่แล้วก็ชะงักไป
เพราะครั้งหนึ่งเขาเองก็เคยทำแบบนี้ แต่ตอนนั้นจีมินห้ามไว้ นัมจุนสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านไป
ในเมื่อตอนนี้อีกฝ่ายไม่อยู่แล้ว เขาก็มีสิทธิ์ที่จะซื้อเบียร์ขวดนี้
“นายดูเปลี่ยนไปเยอะเลยนะนัมจุน
สายตาของนายมีทั้งความเหงาและความเศร้า”
“ไม่เคยมีวันไหนที่ฉันไม่มีความรู้สึกพวกนี้”
“เรื่องมันผ่านมานาน
เลิกคิดมากได้แล้ว... ฝันดีเพื่อน”
ประโยคสนทนาสั้นๆก่อนแยกย้ายกันไปนอนของเพื่อนรักทำเอานัมจุนได้แต่เถียงในใจ
คิดว่าฉันอยากรู้สึกแบบนี้หรือ คิดว่าฉันไม่อยากลืมหรือ
วันต่อมาโฮซอกออกไปทำงานแล้ว
เหลือแค่เขากับมินยุนกิแฟนตัวเล็กของเพื่อนรัก เมื่อคืนคงเพราะเขามาถึงตอนดึกๆจึงไม่เจอยุนกิ
นัมจุนเหลือบมองนาฬิกาพบว่าเป็นเวลาบ่ายๆ เขาหลับไปนานมากคงเพราะเหนื่อยและเจ็ทแล็กด้วย
“นั่งสินัมจุน
โฮซอกทำเผื่อไว้ให้นายตั้งแต่เมื่อเช้านู่นแหนะ”
นัมจุนรู้จักยุนกิมาก่อนแล้วเพราะเคยอยู่ชมรมดนตรีเหมือนกัน ฟังจากคำบอกเล่าของเพื่อน
คนตรงหน้ากลายเป็นนักทำเพลงชื่อดังไปเสียแล้ว
“เออนี่นัมจุน
นายพอมีเวลาว่างบ้างมั้ยล่ะ มาช่วยฉันทำเพลงแบบเมื่อก่อนสิ”
“ได้เลยพี่ ตอนนี้ผมยังไม่มีงานทำพอดี”
“จริงหรอ ดีมากๆ จะได้ครบ...”
นัมจุนชะงักมือที่กำลังตักข้าวเข้าปาก
“เอ่อ... ฉันขอโทษ”
ยุนกิไม่ทันคิดว่าคำพูดเมื่อกี้จะไปสะกิดแผลเก่านัมจุน เพราะสมัยเรียน
ทีมโปรดิวซ์เพลงมีเขา โฮซอก และนัมจุน ส่วนทีมร้องมีจีมินเป็นหนึ่งในนั้น
“ไม่เป็นไรครับพี่ ผมโอเค ชินแล้ว”
นัมจุนส่งยิ้มมาให้ยุนกิซึ่งดูอย่างไรก็เป็นยิ้มเศร้าเจื่อนๆ ผมชินกับความเหงาแล้ว
บ้านของโฮซอกอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยที่เขาเคยเรียนมันทำให้นัมจุนคิดถึงจีมินได้ง่ายขึ้น
ป้ายรถเมย์ที่เคยรอขึ้นรถกับจีมิน เขาเคยใส่หูฟังคนละข้างกับจีมินเพื่อรอรถ
จีมินบอกว่ามันโรแมนติกมาก ร้านเค้กที่จีมินชอบลากนัมจุนไปกินด้วยบ่อยๆ
แต่เพราะนัมจุนไม่ชอบกินของหวานเลยโดนจีมินบ่นบ่อยๆ เก้าอี้ข้างทางที่เป็นสถานที่นัดกันหลังเลิกเรียนของนัมจุนกับจีมิน
ใครเลิกก่อนก็จะมารอที่ม้านั่งตัวนี้ ร้านไอศกรีมที่เคยมาฉลองกับจีมินในทุกโอกาส ทั้งยังเป็นที่ที่นัมจุนสารภาพรักกับจีมินอีกด้วย
ทุกๆสถานที่ในอดีตมีแต่จีมินกับนัมจุน
หลังจากที่คิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่กลับมา
ขายาวๆก็พาเจ้าตัวมาหยุดหน้าผับแห่งหนึ่งที่เคยมาฉลองกับเพื่อนๆ
นัมจุนเก็บแว่นกันแดดและเปิดประตูเข้าไป เสียงเพลงดังกระฮึ่มทำเอาหูชาไปสักพัก
เมื่อปรับตัวได้นัมจุนก็เริ่มสนุกไปกับเพลง นัมจุนสั่งเครื่องดื่มสีสวยหลายแก้ว
หวังว่าจะดื่มเพื่อลืมคนตัวเล็ก เวลาผ่านไปพักใหญ่ๆจนนัมจุนเริ่มเมา
เขาเหมือนเห็นจีมินท่ามกลางฝูงคนที่กำลังเต้นกันอย่างสนุกสนาน
นัมจุนไม่รู้ว่านี่เป็นภาพหลอนอีกหรือไม่ ทั้งวันนี้เขาเห็นภาพจีมินเป็นร้อยๆครั้งแล้ว
จีมินที่เขาเห็นเดินตรงมาที่เขา
นัมจุนรู้สึกว่าภาพที่เขาเห็นตอนนี้ดูสมจริงกว่าที่เคย อาจเป็นเพราะแอลกอฮอล์ที่อยู่ในเลือดตอนนี้
ยังไม่ให้สมองได้ประมวลผลภาพตรงหน้า ปากกลับไวกว่า นัมจุนเอ่ยเรียกชื่อคนตัวเล็กออกมา
“จีมิน...”
“ไง”
ไม่มีภาพไหนที่สามารถส่งเสียงตอบกลับมาได้หรอกนะ...
TALK : ตอนนี้ขอขอบคุณพี่จัสวัน @justonedegree ค่ะ ช่วยให้คำแนะนำหลายๆอย่างเลย เพราะตามจริงแล้วไม่ถนัดเขียนแนวนี้มาก ขอบคุณที่ตามอ่านกันมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ
TALK : ตอนนี้ขอขอบคุณพี่จัสวัน @justonedegree ค่ะ ช่วยให้คำแนะนำหลายๆอย่างเลย เพราะตามจริงแล้วไม่ถนัดเขียนแนวนี้มาก ขอบคุณที่ตามอ่านกันมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ